“แน็ก ชาลี“ คลั่งรักมาก ลุยจีบ ”กามิน“ ลั่นเกาหลีแค่ปากซอย

“มิ้นต์ ชาลิดา” รับไม่ต่อสัญญาช่อง แต่อยู่ด้วยใจ แจงหลังมีภาพไปตึกย่านอโศก

ทำเอาฮือฮาสุดๆ เมื่อนางเอกสาว “มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรมงศ์ทอง” ได้เล่ารักในวัยเด็กกับ “แน็ก-ชาลี ไตรรัตน์” ในรายการหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยบอกให้ใครรู้มาก่อน นอกจากนั้นเจ้าตัวก็ยังเผยถึงเหตุการณ์ที่เกือบเลิกกับแฟนหนุ่มทายาทโบนันซ่า “ภูผา เตชะณรงค์” ที่ทำเอาเครียดจนผอมและปอดฉีก ทำให้หลายนตกใจอย่างมาก

เมื่อได้เจอกับสาว “มิ้นต์” เลยถามถึง 2 ประเด็นที่กำลังเป็นที่สนใจในตอนนี้ นักแสดงสาวก็ตอบชัดๆ มาว่า

หลังจากที่เราเล่าในรายการหนึ่งเรื่อง “แน็ก ชาลี” เคยเกือบคบกันในวัยเด็ก?

“จริงๆ เป็นเรื่องที่ทุกคนไม่เคยรู้ มิ้นต์ก็งงเหมือนกันว่าวันนั้นถามได้ยังไง ใครให้แหล่งข่าวนี้ (หัวเราะ) แต่ก็มีการทักไปหา “แน็ก” เหมือนกัน หลังจากเห็นพาดหัวข่าวกลัวเขาตกใจว่าเรื่องมันผ่านมา 20 ปีแล้ว หนูก็นึกนานเหมือนกัน เหมือนตอนนั้นหนูอยู่ ป.4 แน็ก ป.5 บ้านเราอยู่ใกล้กัน เป็นสานสัมพันธ์ที่โรงเรียนค่ะ (หัวเราะ) ป๊อปปี้เลิฟ มันยาวนานจนต้องถามถึงอดีตแล้ว (หัวเราะ) มันเป็นเรื่องเด็กกุ๊กกิ๊ก แล้วตอนนั้นหนูก็เคยไปแคสต์หนังที่แน็กเล่นเหมือนกัน (แฟนฉัน) แต่ไม่ได้เป็นแฟนกัน

ตอนเราทักไป “แน็ก” ว่ายังไง?

“เขาก็บอกว่าเห็นแล้ว สบายดีไหม พวกเราโตกันขึ้นเยอะแล้ว ทักทายปกติ เขาก็ไมได้ตกใจข่าว ตอนนั้นเขาก็ชอบเลี้ยงสัตว์นะ (มีเจอกันล่าสุดเมื่อไหร่?) ไม่ได้เจอกันเลย นานมาก เป็นสิบปีที่ไม่ได้เจอกันเลย แต่ก็มีทักไปคุยถามไถ่กันบ้าง เหมือนเป็นเพื่อนสมัยเด็ก”

แต่ตอนนั้นเขาตกใจคุณแม่ใช่ไหม?

“มิ้นต์จำไม่ได้เลยว่าแน็กหายไปจากมิ้นต์ตอนไหน (หัวเราะ) แต่ถ้าย้อนภาพกลับไปชัดๆ ก็คือตอนไปดูหนัง แล้วคุณแม่ไปด้วยค่ะ แต่หนูจำไม่ได้เลยว่าไปดูที่ไหนอะไรยังไง แต่เหมือนไปกัน 3 คน (หัวเราะ) เหมือนแม่ก็เป็นห่วง ด้วยความที่เราก็ยังเด็ก และสมัยนั้นเราก็เริ่มมีการถ่ายโฆษณาแล้วบ้าง แล้วแน๊กก็เหมือนว่าจะได้เล่นหรือไม่ได้เล่น เพราะรู้จักกันตั้งแต่ยังไม่ได้เล่นหนังเลย แล้วเขาก็ดังเปรี้ยงปร้าง”

ถ้าได้กลับมาร่วมงานกันอีกทีเราจะเขินไหม?

“คือหนูก็ลืมไปแล้ว ก็ช็อกเหมือนกันที่วันนั้นเขาถามหนู ก็มีสตั้นท์ ก็ถึงนึกขึ้นมาได้ว่าเหมือนเคยคุยกันอยู่แป๊บนึง แป๊บเดียวจริงๆ ลืมไปแล้ว เพราะว่าไม่ได้คบกันนะคะ แค่เหมือนรุ่นพี่รุ่นน้องอะไรยังไงดี แล้วก็ยังไม่ทันได้ยังไงดี แล้วก็หายจากกันไปได้ยังไงก็ไม่รู้ ต้องถามแน็กดู เผื่อแน็กจะจำได้ เพราะมิ้นต์จำไม่ได้ (หัวเราะ)”

ถามถึงเรื่องปอดฉีก?

“เหมือนเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นนานมากแล้วค่ะ สมัย พี่ผา ไปบวช แล้วเขาก็อินในธรรมะมากๆ (หัวเราะ) แล้วเขาก็บอกว่าเขาเห็นพี่เต๋อเหมือนเห็นตัวเองเลย อินทางธรรมะสุดๆ คือเขาครอบครัวใหญ่ ทำธุรกิจด้วย ก็ไม่รู้ว่ารำคาญจิต รำคาญใจเราหรือเปล่า ตอนนั้นก็คือหายไปเลย พอสึกออกมาเขาก็หายจากหนูไปเลย ช่วงนั้นก็เหมือนห่างกันไปเกือบ 4 เดือนได้ เขาก็ไม่ได้มาบอกอะไรเลย

ตอนนั้นเราก็ตกใจว่าฉันทำอะไรผิด แล้วก็มาทบทวนตัวเอง ก็มีการคุยกับพี่น้องเขา เขาก็บอกว่าไม่น่าจะเป็นอะไร เขาก็ยังบังคับพี่น้องทำวัดเช้า วัดเย็น นอนเร็วๆ ออกมาก็ใส่ชุดขาว เขาก็เหมือนยังติดอยู่กับความสบายใจตรงนั้น แต่พอเขาได้กลับมาทำงาน เขาก็ค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ แต่ตอนเขาบวชมิ้นต์ก็ไม่ได้ไปงานบวชเขาด้วย เพราะช่วงนั้นมิ้นต์ถ่ายละครเยอะ ก็เลยรู้สึกว่าหรือเขาโกรธที่เราไม่ไปนะ แต่ไปๆ มาๆ เขาก็ค่อยๆ ปรับคืนมา แต่ต้องให้เวลาเขา เราก็ไม่ได้เร่งรีบ แต่คิดว่าถ้าเราไม่ใช่ต่อกัน ก็แยกย้ายกันไปใช้ชีวิต แต่เราก็ยังไม่ได้คิดว่าเลิกเลย เพราะมันไม่มีการบอกเลิก ไม่มีการคุยหรือเคลียร์กัน”

 “มิ้นต์ ชาลิดา” สายตรงหา “แน็ก ชาลี” กลัวตกใจข่าวรักวัยเด็ก เล่าเหตุเกือบเลิก “ภูผา”...

ตอนนั้นคิดว่าเป็นการเลิกแบบไม่บอกเลิกหรือเปล่า?

“ก็ยังได้คุยกับที่บ้านเขาอยู่บ้าง ก็ค่อยๆ ละลายพฤติกรรมเขาว่าเรากลับมาอยู่โลกมนุษย์แล้วเด้อ (หัวเราะ)”

สิ่งที่ทำให้เราป่วยเพราะเขาคิดมากเรื่องเขา?

”เหมือนพอเราเครียด มันก็เลยกินไม่ลง ก็เลยทำให้เราผอมลง แล้วมิ้นต์เป็นคนช่วงตัวยาวมันก็ยืด ก็เลยเกิดจากการที่ปอดยืดตามตัวไม่ไหว เพราะว่าผอมเร็ว ปอดเลยฉีก แต่ฉีกไม่เยอะประมาณ 5%“

อาการปอดฉีกเป็นไง?

”เจ็บค่ะ หายใจก็เจ็บ หัวเราะก็ไม่ได้ คุยกับใครเยอะก็ไม่ได้ เลยไปตรวจที่โรงพยาบาล เพิ่งมารู้ด้วยว่าตอนนั้นเขาคิดว่ามิ้นต์สำออยหรือเปล่า (หัวเราะ) มิ้นต์เพิ่งมารู้ตอนนี้ ก็บอกว่าแหม (หัวเราะ)“

รักษายังไง?

”รักษาอะไรไม่ได้ ไม่มียาที่กินแล้วหาย ก็ต้องปล่อยให้ร่างกายสมานเอง เพราะว่าไม่ได้ฉีกถึงขั้นต้องเย็บ แต่ว่ามันส่งผลทำให้ไปดำน้ำไม่ได้ คุณหมอไม่อนุญาตให้ทำกิจกรรมอะไรที่ผาดโผนเยอะ กลายเป็นคนที่ปอดเซนซิทีฟมาก ช่วงนั้นเลยต้องงดรับละครบู๊ไป 1 ปี ช่วงนั้นก็ต้องให้ร่างกายมันรักษาตัวเอง เพราะไม่มียารักษา อยู่โรงพยาบาลคุณหมอก็แค่ให้เครื่องช่วยหายใจ ตอนนี้ไปตรวจมาปอดก็ไม่ได้ 100% ที่จะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นปกติได้ ต้องให้คอยเฝ้าระวังไว้“

ย้อนกลับไปสี่เดือนหลังจากนั้น เราได้มีการเคลียร์กันไหม ?

“ได้คุยเขาก็บอกว่าไม่ได้ แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากจะบวชอีก หนูก็หือ 12 ปีแล้วนะ (หัวเราะ)​ ถ้าบวชก็อาจจะบวชตลอดชีวิตไปเลยก็ได้ แต่ไม่เป็นไร อะไรจะเกิดก็เกิด ปล่อยให้เป็นปกติไปตามปกติของชีวิต ก็ไม่ได้ไปห้ามเขา แต่แค่แซวเล่นๆ ว่าถ้ามาทิ้งฉันตอน 12 ปีนี่นะ โบนันซ่า (ลากเสียงสูงยาว)”

พอเขารู้ว่าสาเหตุที่เราเป็น เขาได้มีอะไรปลอบใจเราไหม ?

“ไม่มีของขวัญ แต่ตอนนั้นคุณพ่อเขาก็น่ารักดูแลค่ารักษาให้ เพราะเขาก็รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ที่บ้านเขาน่ารักมากๆ ค่ะ ส่วนที่ผาเขาก็ไม่ได้คิดว่าเราจะเป็นจริงเป็นหนัก คิดว่าเราเป็นจริงหรือเปล่านะ (หัวเราะ)​ หลังจากนั้นพอเขารู้ว่าเป็นจริงๆ เขาก็ดูแล คอยเตือนให้เราระมัดระวังหน่อย พาไปหาหมอทุกปี ออกค่าตรวจสุขภาพให้ตลอด (หัวเราะ) ก็ถือว่าเป็นของขวัญ ซื้อแพ็คเกจตรวจสุขภาพให้ทุกปีค่ะ มิ้นต์ก็ไม่อยากไปโทษเขา มันก็เป็นที่ตัวเรา ปกติผู้หญิงคนอื่นผอมก็อาจจะไม่ได้ปอดฉีกแบบเราก็ได้ มันอยู่ที่ร่างกายของเราเองมากกว่าค่ะ”

แบบนี้เรียกว่าเป็นการพิสูจน์รักแท้หรือเปล่า ?

“มิ้นต์ว่ามันก็เป็นเรื่องของชีวิตปกติ ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องพิสูจน์หรืออะไร คิดว่าวันนั้นถ้ามิ้นต์รอไม่ได้ ก็อาจจะได้ไปต่อกับคนอื่น แต่เราก็ยังไม่ได้เจอใคร และเขาก็ไม่ได้ยืนยันอะไร”

12 ปีแล้ว กดดันไหมคำนี้?

”ไม่ได้กดดันตัวเอง เพราะมิ้นต์เป็นคนที่ใช้ชีวิตเรื่อยๆ เป็นยังไงก็เป็น ไม่ได้คาดหวัง คิดว่าถ้าวันนี้เรามีความพร้อม เราก็ไปเองแหละ แต่ทุกคนถามก็เข้าใจ มันเป็นเรื่องปกติที่ก็คบกันมายาวนานแล้ว แต่ด้วยความที่หลักการใช้ชีวิตของเราทั้งคู่ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องตรงนั้นค่ะ เหมือนว่าเราเห็นวัฏจักรชีวิตของหลายๆ อย่างมากขึ้น ทำให้เรารู้สึกว่าไม่ได้ไปเคร่งเครียด หรือไม่ได้เร่งรีบ ถ้าวันนึงพร้อมก็พร้อมค่ะ“

ผู้ใหญ่ถามไหม?คำพูดจาก ปั่นสล็อตแตกทุกเกม

“ถามเยอะมากค่ะ ถามทุกคน เจอทุกครั้งพี่ๆ สื่อก็จะถามว่าหรือยังๆ ครอบครัวเขาก็ถามเยอะ เราก็ตอบเหมือนเดิมทุกครั้งว่าค่ะ (หัวเราะ)”

แต่คนก็มองว่าเราเป็นลูกรักของคุณพ่อเขา?

“ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น ตอนนี้ 90% พี่ภูผาอยู่เขาใหญ่ มีอะไรคุณพ่อเขาก็จะโทรมาหามากกว่า พี่ผาก็คือไม่รู้ว่าคุยกับสัตว์แล้วสบายใจกว่าคุยกับหนูหรือเปล่า (หัวเราะ) ช่วงนี้ก็ถามอยู่ว่าหรือเราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว เพราะคุยกันน้อยลง มันไม่มีอะไรจะคุยแล้ว เราคุยกันทุกเรื่องแล้ว และ 90% เขาอยู่เขาใหญ่ ทุกวันนี้เราต้องไปนู่น เขาลงมาน้อยมาก ไม่น้อยใจเลย (หัวเราะ) คือเราชิน แล้วทุกคนก็โฟกัสเรื่องงาน เราก็โฟกัสงานเรา เขาก็โฟกัสของเขา”

ผลบอลพรีเมียร์ลีก แมนซิตี้ แซงชนะ แมนยู 3-1 โฟเด้น เบิ้ล

“โยเกิร์ต” มูฟออน! ลบเกลี้ยงทุกอย่างเกี่ยว “พีเค” ด้านนางแบบเวียดนามเคลื่อนไหว หลังถูกเอี่ยวดราม่า

กยศ.คืนเงินลูกหนี้ 3,494 ราย 97 ล้านบาท หลังใช้เกณฑ์คำนวณหนี้ใหม่

By admin